หลังจาก “พยัคฆ์แดนมังกร” แหยน ปิ่ง เทา นักสอยคิวมือ 10 ของโลกจากจีน เจ้าของแชมป์รายการใหญ่อย่างมาสเตอร์ส 2021 ต้องปราชัยอย่างย่อยยับต่อ “พ่อมดน้อย” ฌอน เมอร์ฟี่ มือ 7 ของโลกจากอังกฤษ ไปด้วยสกอร์ที่ย่อยยับ 7-13 เฟรม ในศึกสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลก 2021 รอบ 16 คนสุดท้าย ที่ครูซิเบิลเธียร์เตอร์ เมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ เมื่อวันจันทร์ที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา
ความพ่ายแพ้ดังกล่าว ได้ทำให้ความฝันของแฟนสนุกเกอร์ชาวจีน ที่ต้องการเห็นนักสอยคิวจากดินแดนบ้านเกิด ผงาดขึ้นไปคว้าแชมป์โลกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ต้องมลายหายไปอีกครั้ง พร้อมกับทำให้ชาวเอเชียหัวดำ ยังไม่มีผู้ใดก้าวขึ้นไปถึงตำแหน่งบัลลังก์แชมป์โลก ของชนิดกีฬานี้เลย
ใกล้เคียงที่สุด คือการคว้ารองแชมป์โลกของ ติง จุ้น ฮุย ในศึกชิงแชมป์โลกเมื่อปี 2016 หลังจากในรอบชิงชนะเลิศ ซูเปอร์สตาร์แดนมังกรรายนี้ พ่ายต่อ “ฉลามหิน” มาร์ค เซลบี้ ไปอย่างน่าเสียดาย 14-18 เฟรม
อันที่จริง ศึกชิงแชมป์โลกหนนี้ นักสอยคิวแดนมังกร สามารถผ่านเข้ามาแข่งขันในรอบเมนดรอว์ที่สังเวียนครูซิเบิลเธียร์เตอร์ได้ถึง 5 คน ทว่านอกจาก แหยน ปิ่ง เทา แล้ว อีก 4 คนที่เหลือ ไม่ว่าจะเป็น เหลียง เหวิน โป๋ มือ 29 ของโลก, หลิว เห่า เทียน มือ 41 ของโลกจาก, เทียน เปง เฟย มือ 57 ของโลก ไม่เว้นแม้แต่ความหวังสูงสุดอย่าง ติง จุ้น ฮุย ตาพาเหรดตกรอบแรกกันหมด
ADVERTISEMENT
จึงเกิดคำถามขึ้นมาว่า เพราะเหตุใด นักสอยคิวจากจีนแผ่นดินใหญ่ ที่ยิ่งนับวัน ก็ยิ่งได้สิทธิ์เข้ามาแข่งขันในทัวร์สนุกเกอร์อาชีพมากขึ้นเรื่อยๆ จนในฤดูกาลปัจจุบัน(2020-2021) มีมากถึง 29 คน แต่กลับยังไปไม่ถึงฝั่งฝัน กับการคว้าแชมป์โลกสักที
ก่อนหน้านี้ แฟนสอยคิวแดนมังกรต่างมีความหวัง หลังจาก แหยน ปิ่ง เทา ผงาดคว้าแชมป์รายการใหญ่ระดับทริปเปิลคราวน์อย่างศึกมาสเตอร์ส 2021 ไปครอง เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา
ADVERTISEMENT
ทว่าจากชูถ้วยแชมป์มาสเตอร์ส 2021 ขึ้นเหนือศีรษะแล้ว “พยัคฆ์แหยน” กลับทำผลงานในรายการอื่นไม่ค่อยดีนัก ตกรอบแรกๆอยู่บ่อยครั้ง จนถูกสื่อบางสำนักปรามาสไว้ว่า โทรฟี่แชมป์มาสเตอร์ที่ได้มานั้น คงจะมีความฟลุ๊คเข้ามาช่วยด้วย
ก่อนที่คำดูถูกนี้ มันจะดูมีน้ำหนักมากขึ้น หลังจากที่เขา เพิ่งตกรอบ 16 คนสุดท้ายในศึกชิงแชมป์โลก 2021 นั่นเอง ด้วยความพ่ายแพ้ที่ขาดลอยต่อ ฌอน เมอร์ฟี่ อย่างที่ได้กล่าวไป
ด้าน ติง จุ้น ฮุย ที่ถือเป็นนักสนุกเกอร์ชาวเอเชียที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด จนเคยขึ้นไปครองอันดับ 1 ของโลกมาแล้ว แต่ปัจจุบัน กำลังอบยู่ในช่วงขาลงอย่างชัดเจน หลังจากไร้แชมป์ไปนานเกิน 1 ปี โดยแชมป์ครั้งสุดท้ายของนักสอยคิววัย 34 ปีรายนี้ ต้องย้อนกลับไปในเดือนธันวาคมปี 2019 กับศึกยูเคแชมเปี้ยนชิพ 2019
นอกจากนี้ จากการที่ “มังกรติง” เพิ่งตัดสินใจเข้าไปเป็นหนึ่งในบอร์ดบริหารของสมาคมบิลเลียดและสนุกเกอร์อาชีพโลก(WPBSA) จึงน่ากังวลไม่น้อยว่า เขาจะกลับมามีผลงานที่จัดจ้านเหมือนเดิมอีกหรือไม่ เพราะนับจากนี้จะต้องทำหน้าที่เป็นผู้บริหารองค์กรคิวโลกไปด้วย ไม่ได้โฟกัสกับการแข่งขันเพียงอย่างเดียวอีกต่อไปแล้ว
นอกจาก แหยน กับ ติง แล้ว นักสอยชาวจีนแผ่นดินใหญ่คนอื่น ก็ยังโชว์เพลงคิวได้ดีแบบไม่สุด จนมองไม่เห็นว่าใครจะก้าวขึ้นมาเป็นความหวังใหม่ในภายภาคหน้าได้บ้าง
หากหมดยุคของ “มังกรติง” แล้ว นักสอยคิวจีนคนอื่นยังขึ้นมาผงาดเหมือนดั่งที่ ติง จุ้น ฮุย ทำไม่ได้ คงอีกนานที่ชาวเอเชีย จะสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์สนุกเกอร์โลก
