ปิดตำนาน รินทร์ ระยอง

ก่อน การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ หน 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ไม่กี่วัน คอลัมน์ตำนานเซียน ได้เขียนถึงเซียนดังที่คนในวงการรู้จักดีเจ้าของฉายา “สมอดำ” หรือชื่อจริง คีรินทร์ ซื่อเจริญ (รินทร์แก้ว ระยอง) ที่มีฝีมือการเล่นสนุกเกอร์ระดับ “ขั้นเทพ” ปราบเซียนดังมามากต่อมากไม่เว้น “เพื่อนรัก” ตึ๊ก โคราช, ตา ลพบุรี, วิเชียร แสงทอง, เง็ก อ่างทอง และที่สร้างชื่อโด่งดังไปทั่วยุทธจักรเมื่อครั้งปราบ จิวยี่ ศรีย่าน ที่สโมสรราชตฤณมัยสมาคมซึ่งหนนั้น กองเชียร์จิวยี่ ยกโขยงมาจากศรีย่านเอาเงินมาทิ้งที่สนามม้าหลายแสนบาทเพราะถูก “มวยรอง” รินทร์ ระยอง แทงยับจนหาทางกลับศรีย่านไม่ถูก เพิ่มรายได้ให้คนในวงการอาชาอาทิ “ชาติซ้าย” สมชาติ เจริญวัชรวิทย์ “ชาติทุ้ย” สุชาติ โภคศิริ ซึ่งเป็นฝ่ายถือหางเจ้าบ้าน รินทร์ ระยอง

เขียนตำนานเซียน “สมอดำ” ได้แค่ 2 ตอนก็ต้องจรรีร่วมทีมสอยคิวไปแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่ฟิลิปปินส์ กะว่ากลับมาจะเขียนต่อให้อ่านฉบับวันพุธ 18 ธ.ค. เพราะมีเรื่องราวที่คนในวงการสอยคิวไม่รู้ถึงความเป็นมาของเซียนดังรายนี้อีกมาก เพราะล่าสุด รินทร์ ระยอง ไปบวชเป็นพระอยู่ที่วัดมาบเตย อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยองบ้านเกิดตั้งแต่ปี 2544 โดยตั้งใจจะขออยู่ในผ้าเหลืองจนชีวิตหาไม่

และเมื่อเช้าตรู่วันเสาร์ที่ 14 ธ.ค. ได้รับโทรศัพท์จาก สุข เจริญผล คนใกล้ชิด พระรินทร์ ระยอง แจ้งว่า หลวงพี่รินทร์มรณภาพแล้วเมื่อตีห้าที่ผ่านมา หลังจากที่เกิดอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่ออก ลูกศิษย์ต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลปลวกแดง หมอเช็คอาการที่ทำให้หายใจไม่สะดวกสืบเนื่องจากอาการของ ถุงลมโป่งพอง เพราะในอดีต พระรินทร์ สูบบุหรี่จัด ดื่มแอลกอฮอล์แทนน้ำ เมื่อวัยเข้าสู่เลข 8 สังขารจึงถูกสารพัดโรครุมเร้าทั้ง หัวใจ ความดัน ถุงลมโป่งพอง เบาหวาน พาเหรดมากันยังกับ ยาชุด

สุข เจริญผล คนใกล้ชิดที่นับถือเซียนดังรายนี้ได้เล่าถึงอาการ พระรินทร์ ก่อนมรณภาพเพราะไม่ยอมให้ หมอเจาะคอเพื่อให้ออกซิเจนช่วยหายใจสะดวก แต่ยอมรับออกซิเจนทางจมูกเท่านั้น และด้วยเหตุนี้จึงทำให้หายใจไม่สะดวก ขาดออกซิเจนจน มรณภาพ เมื่อเช้ามืดของวันเสาร์ 14 ธ.ค.

ก่อนที่ พระรินทร์ ระยอง จะมรณภาพแค่ 2 อาทิตย์ ได้ให้สัมภาษณ์จะขออยู่ในผ้าเหลืองจนชีวิตจะหาไม่ เพราะละเลิกกิเลสทั้งปวงมาแล้วโดยบวชนานถึง 18 พรรษาและตั้งใจจะไม่สึกตลอดชีวิต

คีรินทร์ ซื่อเจริญ บวชเป็นพระภิกษุเมื่อปี 2544 ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เนื่องจากพี่สาวทำมาค้าขายอยู่ที่แปดริ้วและเมื่อทราบว่า รินทร์ ระยอง ติดสุราเริ้อรังจนสุขภาพทรุดโทรม จึงได้นำตัวมาบวช โดยตั้งใจจะขัดเกลานิสัยให้ดีขึ้นเพื่อไปทำมาหากินเลี้ยงครอบครัวต่อไป

หลังจากจำวัดที่แปดริ้วอยู่ 2 พรรษา พระรินทร์ ระยอง ก็ลาเจ้าอาวาสเพื่อกลับมาจำวัดที่จังหวัดบ้านเกิดคือ วัดมาบเตย อำเภอปลวกแดง ระยอง ซึ่งเป็นวัดเล็กๆ ยังขาดปัจจัยในการก่อสร้างเพื่อบูรณวัดให้ดีกว่าเดิมโดย พระรินทร์ ซึ่งมีพวกมาก อาสาหาปัจจัยเข้าวัดด้วยการจัดทอดผ้าป่าและโอกาสต่อมาจัดทอดกฐิน ซึ่งทำให้วัดมาบเตยมีรายได้และสามารถก่อสร้างศาลาพร้อมกุฏิพระอีกหลายหลัง ซึ่งทุกปี พระรินทร์ ระยอง จะมาบอกบุญแก่คนในวงการสอยคิว โดยเฉพาะนายกสมาคมสนุกเกอร์แห่งประเทศไทย สุนทร จารุมนต์ จะต้องร่วมทำบุญด้วยทุกครั้ง

ก่อนมรณภาพ พระรินทร์ ระยอง บอกบุญมาแต่เนิ่นๆ ปีใหม่จะเข้ากรุงเทพฯ เพื่อขอให้เพื่อนสนิทมิตรสหายช่วยกันถวายปัจจัยเพื่อ หล่อพระประธาน ให้วัดมาบเตย ประมาณเดือนเมษายน แต่น่าเสียดายยังไม่ถึงวันสำคัญก็มาด่วน มรณภาพเสียก่อนในวัย 80 ปี โครงการหล่อพระ จึงต้องล้มเลิกเพราะขาดกำลังสำคัญ ไม่มีใครสานต่อ

ในยุคที่ รินทร์แก้ว ระยอง โด่งดังเมื่อปี 2528 “คิวทอง” จัดสนุกเกอร์ชิงแชมป์ประเทศไทย โดยคัดเอามือดีที่สุด 16 คนลงแข่งขัน ใครที่ไม่อยู่ ท็อป 16 ไม่มีสิทธิ์ลงเล่น ซึ่งรายการนี้ รินทร์แก้ว อยู่ลำดับที่ 16 แต่มี “ดาวรุ่ง” เกิดใหม่คือ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ซึ่งทาง “คิวทอง” พยายามผลักดันให้ลงแข่งขันแต่ติดขัดตรงที่ไม่ติด ท็อป 16 จึงต้องมีการคัดเลือกให้อันดับ 16 เจอ ต๋อง ใครชนะจะได้สิทธิ์ลงแข่งประเทศไทย ซึ่งการดวลคิวระหว่าง “ดาวกำลังร่วง” กับ “ดาวรุ่ง” ปรากฏว่า รินทร์แก้ว อาศัยความเก๋าเอาชนะ ต๋อง ได้สิทธิ์แข่งชิงแชมป์ประเทศไทยในปีนั้น แต่ตกรอบแรกโดย “สมอดำ” พ่ายยับให้กับ เป้า อินทรา

ศพของ พระคีรินทร์ ซื่อเจริญ จะมีพิธีฌาปนกิจวันพฤหัสบดี 19 ธ.ค. โดยมีนายกสมาคมสนุกเกอร์ฯ สุนทร จารุมนต์ อุปนายกฯ ศักดา รัตนสุบรรณ พร้อมทั้ง รัชพล ภู่โอบอ้อม (ต๋อง ศิษย์ฉ่อย) พร้อมคุณแม่พลอยรุ้ง มัชฌันติกะ จะร่วมส่งวิญญาณ ณ วัดมาบเตย อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง