”แมน นครปฐม”ตบปล้นชัยฉลุยรอบ8สอยคิวพี80สุราษฎร์

ศึกสอยคิว ”พี80-ทรู สุราษฎร์ธานี คัพ” สุดเร้าใจ ”แมน นครปฐม” ธนวัฒน์ ถิรพงศ์ไพบูลย์ จอมคิวทีมชาติไทย ทำศึกสายเลือดนครปฐมกับ ”กร นครปฐม” ภาสกร สุวรรณวัฒน์ จอมคิวมือ 2 เมืองไทย แทงสู้กันมันหยดสุดสูสี โดยแมนทิ่มนำก่อน 2-0 เฟรม ก่อนที่กรไล่สอย 3 เฟรมรวดแซงขึ้นแท่นนำ 3-2 เฟรม แต่ แมน นครปฐม ฮึดสู้ตบไม้เดียวชนะขาดไล่มาเสมอ 3-3 เฟรม ต้องเล่นเฟรมตัดสิน โดยจอมคิวร่างยักษ์ กร นครปฐม แทงได้ครบเครื่องออกนำสกอร์ขาดลอย 1 สนุ้ก แต่ความซวยมาเยือน เมื่อตบน้ำตาลลงไปแต่ขาววิ่งไปเปลี่ยนด้วย ส้มหล่นใส่ แมน นครปฐม ลุกขึ้นมาจากหลุมไล่ตบปล้นชัยอย่างเหลือเชื่อ 4-3 เฟรม ลิ่วรอบ 8 คนสุดท้าย ชน ”หนู ดาวดึงส์”
การแข่งขันสนุกเกอร์อาชีพเก็บสะสมคะแนนประเทศไทย รายการ ”พี80-ทรู ไทยแลนด์ แรงกิ้ง เซอร์กิต 2020” สนาม 2 ในชื่อ ”พี80-ทรู สุราษฎร์ธานี คัพ” ที่โรงแรมร้อยเกาะ จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันวันที่สาม รอบ 16 คนสุดท้าย แข่งระบบ 4 ใน 7 เฟรม โดยคู่ที่น่าสนใจเป็นการพบกันระหว่าง ”กร นครปฐม” ภาสกร สุวรรณวัฒน์ นักสนุ้กมือ 2 ประเทศไทย รองแชมป์รายการแรก จ.กาญจนบุรี พบกับ ”แมน นครปฐม” ธนวัฒน์ ถิรพงศ์ไพบูลย์ จอมคิวมืออันดับ 19 ประเทศไทย ซึ่งทั้งคู่เป็นนักสนุกเกอร์ทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ที่ฟิลิปปินส์

โดยเปิดมาเฟรมแรก แมนทิ่มแดงลูกแรกลงไป เดินหน้าสอยไม้เดียว 11 ชุด 64 แต้ม ชนะสบาย 64-1 ขึ้นนำ 1-0 เฟรม พอเฟรมสอง แมนยังแทงได้แม่นยำ กดเบรก 73 แต้ม นำห่าง 2-0 เฟรม แต่มาเฟรมสาม จอมคิวร่างใหญ่ กร นครปฐม ทวงสกอร์คืนไล่ตบ 2 ไม้ ชนะ 91-9 ไล่มา 1-2 เฟรม เข้าเฟรมสี่ เกมยังเป็นของ กร นครปฐม ได้ตบอยู่ฝ่ายเดียว ตบ 2 ไม้ ชนะขาด 72-0 ตามมาเสมอ 2-2 เฟรม

มาถึงเฟรมห้า กรเปิดสกอร์ตบแดงลูกแรกลงไป มาพลาดให้แมนทิ่มแดงลูกแรกหลุมบนซ้าย ตามด้วยน้ำเงิน ทำไป 2 ชุด แต่มาแทงกันไม่ดี ทำให้กรได้ตบแดงหลุมบนขวา ไล่เก็บทีละชุดทำไปไม้เดียว 71 แต้ม ชนะ 72-12 ขึ้นแท่นนำ 3-2 เฟรม พอเฟรมหก กรออกสตาร์ตดี ตบนำ 10-0 พลาดตบน้ำเงินง่ายๆ ไม่ลง ส่งคิวให้แมนเดินหน้ากดไม้เดียวแดง 12 ชุด ชนะ 84-10 ตามมาเสมอ 3-3 เฟรม ต้องเล่นเฟรมตัดสิน

โดยเปิดมา กร นครปฐม ไล่ทิ่มแดง 7 ชุด นำ 45-0 ก่อนที่แมนจะมาโต้คืน 3 ชุดครึ่ง 22-45 จากนั้นทั้งคู่ผลัดกันตบอีกคนละไม้ โดยแมนตบแดง-ดำ ชุดสุดท้ายพร้อมเหลือง แต่มาแทงกันเขียวไม่ดี ทำให้ กร นครปฐม ตบเขียวลงไป นำ 61-38 แต้มขาด 1 สนุ้ก ทำท่าจะเอาชนะได้สบาย เมื่อเช็ดน้ำตาลลงหลุมล่างซ้าย แต่โชคไม่เข้าข้าง ขาววิ่งไปเปลี่ยน ส้มหล่นใส่ แมน นครปฐม นำขาวขึ้นมาตั้งพร้อมกับน้ำตาล ตบหลุมกลางเดินตบถึงดำ ปล้นชัยชนะอย่างเหลือเชื่อ 64-61 จบเกมธนวัฒน์เฉือนชนะ 4-3 เฟรม 70-1, 77-7, 9-91, 0-72, 12-72, 84-10, 64-61 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 คนสุดท้าย

แมน นครปฐม เผยว่า ”ในช่วงเฟรมแรกผมนั้นออกคิวได้ดี แต่มาในอีก 3 เฟรมทางพี่กรก็กลับมาเป็นฝ่ายแทงขึ้นนำ 3-2 ตอนนั้นก็คิดว่าน่าจะเสร็จแน่ แต่หลังจากแทง 84 แต้มเฟรมที่หกไล่มาเสมอ 3-3 ก็เชื่อว่าน่าจะมีโอกาสในเฟรมสุดท้าย แต่ในเฟรมสุดท้ายพี่กรแทงนำไปก่อน 61 แต้ม และมาเปลี่ยนลูกน้ำตาลทำให้ผมมีโอกาสแทงและเอาชนะไปแบบหวุดหวิด ต้องยอมรับว่าเหนื่อยทีเดียว ส่วนการเจอกับอาหนู ดาวดึงส์ ในรอบ 8 คนสุดท้าย ต้องพยายามเล่นพลาดให้น้อยที่สุดจึงจะมีโอกาสเข้ารอบลึกต่อไป”

ขณะที่คู่ระหว่าง ”หนู ดาวดึงส์” นพดล นภจร อดีตแชมป์สนุกเกอร์สมัครเล่นปี 2534 มืออันดับ 22 ประเทศไทย ลงดวลคิวกับ ”เปา โพธิ์สามต้น” สุชาติ สุขเลี่ยม แชมป์โลกสนุกเกอร์ซีเนียร์ มาสเตอร์ส ประเทศอียิปต์ ปี 2560 เปิดฉากเฟรมแรก อาจารย์เปาออกคิวได้อย่างไหลลื่นทิ่มชนะไปก่อน 63-25 ขึ้นนำ 1-0 เฟรม หลังจากนั้น หนู ดาวดึงส์ อาศัยประสบการณ์ความเก๋าเกมกว่าคุมการแทงได้ทั้งหมดเป็นฝ่ายแทงชนะม้วนเดียว 4 เฟรมรวด ส่งผลให้ หนู ดาวดึงส์ ชนะ เปา โพธิ์สามต้น 4-1 เฟรม 25-63, 81-4, 55-36, 62-63, 71-49 เข้ารอบ 8 คนสุดท้ายต่อไปพบกับ แมน นครปฐม

ส่วนอีกคู่ ”หมู ปากน้ำ” นพพล แสงคำ จอมคิวมือ 40 ของโลก ลงดวลกับ ”เช็ก นครนายก” รัชโยธิน โยธารักษ์ อดีตนักแม่นรูอาชีพโลก โดยเปิดมาจอมคิวอาชีพโลก ทิ่มชนะนำก่อน 2-0 เฟรม ก่อนที่เช็กจะตามมาสอยชนะ 86-8 ตีไข่แตก 1-2 เฟรม จากนั้นทั้งคู่ผลัดกันตบเอาชนะไปคนละเฟรม แต่สุดท้าย หมู ปากน้ำ ทิ่มเบรก 61 แต้ม ชนะไป 4-2 เฟรม 94-35, 69-29, 8-86, 83-15, 42-76, 67-34 ทะลุรอบ 8 คน ไปเจอ อาร์ต โคราช

แม้ไม่มีสมาธิ! “เซลบี้” ลั่นตั้งเป้าซิวแชมป์สอยคิวมอบให้ “เจ้าสัววิชัย”

มาร์ค เซลบี้ ยอดนักสอยคิวชาวอังกฤษมือ 1 ของโลก ที่เป็นสาวกตัวยงของ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ สโมสรในศึกพรีเมียร์ลีก ให้สัมภาษณ์กับ บีบีซี สื่อดังในบ้านเกิด ว่าตั้งเป้าคว้าแชมป์รายการที่ประเทศจีน เพื่อมอบให้กับ คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรเลสเตอร์ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก

นักแม่นคิววัย 35 ปี ที่กำลังลงแข่งขัน สนุกเกอร์ “อินเตอร์เนชันแนล แชมเปียนชิพ” ที่เมืองต้าชิง ประเทศจีน โดยสามารถเอาชนะ สจ๊วร์ต แคร์ริงตัน 6-3 ทะลุผ่านเข้าถึงรอบ 8 คนสุดท้าย

“สัปดาห์นี้ถือเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับผมกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมต้องพยายามแยกมันออกไปจากสมอง และพยายามลงเล่นอย่างเต็มที่เพื่อที่จะคว้าถ้วยแชมป์กลับไปมอบให้กับคุณวิชัย”

“คู่แข่งที่ผมเจอได้เดินมาบอกผมให้พยายามเอาชนะให้ได้ ผมพยายามโฟกัสกับการแข่งขันเท่านั้น เพราะหากไม่แล้วมันจะส่งผลต่อการเล่นอย่างแน่นอน”

“อย่างไรก็ตาม หากผมทำมันไม่สำเร็จ ผมจะรีบเดินทางกลับบ้านเพื่อไปร่วมแสดงความอาลัยที่หน้าสนามแข่งขันทันที” อดีตแชมป์โลก 3 สมัย กล่าว

สำหรับ มาร์ค เซลบี้ ถือเป็นแฟนบอลตัวยงของ เลสเตอร์ ซิตี้ เนื่องจากเกิดที่เมืองเลสเตอร์ แถมเคยได้พบปะพูดคุยกับคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสร ที่สนามคิง เพาเวอร์ มาก่อนหน้านี้

หยิบทองสำเร็จ! “นุ๊ก สากล” ออกคิวสุดแม่นคว่ำ มาเลเซีย 4-2 สอยคิวซีเกมส์

การแข่งขัน สนุกเกอร์ ชาย รอบชิงชนะเลิศ กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันอังคารที่ 10 ธันวาคม ที่ผ่านมา

เป็นการโคจรมาเจอกันของ “นุ๊ก สากล” กฤษณัส เลิศสัตยาทร นักสอยคิวหนุ่มมือ 1 ทีมชาติไทยในซีเกมส์ครั้งนี้ พบกับ โม คีน โฮ นักสอยคิวจากมาเลเซีย ใช้ระบบ 4 ใน 7 เฟรม เพื่อหาผู้ชนะ

เปิดฉากเฟรมแรก แม่นคิวชาวไทย โชว์ฟอร์มสุดยอดเดินหน้าแทงทำแต้มเอาชนะไป 65-0 แต้ม เฟรมที่ 2 นักสอยคิวไทย ยังแม่นกว่าชนะไป 64-57 แต้ม ขึ้นนำ 2-0 เฟรม

เข้าสู่เฟรมที่ 3 สอยคิวมาเลเซีย มาเปิดเกมลุยทันทีเอาชนะไปได้ 86-0 แต้ม ไล่มาเป็น 1-2 เฟรม จากนั้นในเฟรมที่ 4 เกมเบียดกันสนุกก่อนที่ “นุ๊ก สากล” จะทำได้ดีกว่าเอาชนะไป 72-49 แต้ม ออกนำไปเป็น 3-1

เฟรมที่ 5 โม คีน โฮ หลังชนฝาออกมาแทงด้วยความนิ่งเอาชนะไป 69-21 ไล่มาเป็น 2-3 เข้าสู่เฟรมที่ 6 ทั้งคู่ออกมาดวลกันแบบสุดมันก่อนที่ แม่นคิวชาวไทย จะเอาชนะไปได้ 64-39 ปิดเกมเอาชนะไปได้ 4-2 เฟรม คว้าเหรียญทองไปครองสำเร็จ

กรี๊ดลั่นห้องแถลงข่าว! “มาร์ค เจ” แก้ผ้าหลังคว้าแชมป์สอยคิวโลก

การแข่งขัน สนุกเกอร์ ชิงแชมป์โลก รอบชิงชนะเลิศ สองเซสชั่นสุดท้าย ระบบ 18 ใน 35 เฟรม ที่ครูซิเบิ้ล เธียเตอร์ ประเทศอังกฤษ เมื่อวันจันทร์ที่ 7 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

โดย มาร์ค เจ วิลเลี่ยมส์ ยอดนักแม่นคิวชาวเวลส์ โชว์ฟอร์มเก๋าเป็นฝ่ายออกนำ จอห์น ฮิกกิ้นส์ จากสกอตแลนด์ 10-7 เฟรม ในช่วงแรก

ก่อนที่ในวันสุดท้ายของการแข่งขัน ยอดนักสอยคิวชาวเวลส์จะเดินหน้าคว้าชัยไปได้อีก 18-16 เฟรม ผงาดคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 3 ในชีวิตมาครองได้สำเร็จ หลังเคยทำได้มาแล้วเมื่อปี 2002 และ ปี 2003

ซึ่งตามธรรมเนียมหลังการฉลองแชมป์ จะเป็นการให้สัมภาษณ์สื่อในห้องแถลงข่าว แต่นักสอยคิววัย 43 ปี ทำให้นักข่าวต้องตกใจ โดยนักข่าวสาวๆถึงกับกรี๊ดลั่นห้อง เมื่อแชมป์โลกคนล่าสุดเดินมาในสภาพที่มีผ้าขนหนูผืนเดียวก่อนปลดมันออกเหลือเพียงร่างเปลือยเปล่าเท่านั้น

ก่อนได้ความว่า มาร์ค วิลเลี่ยมส์ ยอดนักสอยคิวจอมเก๋าชาวเวลส์ เคยลั่นวาจาเอาไว้ว่าหากสามารถคว้าแชมป์โลกได้อีกสมัย จะยอมถอดเสื้อออกทุกชิ้นในการนั่งแถลงข่าว ซึ่งเจ้าตัวก็ทำตามสัญญาที่เคยกล่าวไว้นั่นเอง

จากชัยชนะในครั้งนี้ส่งผลให้ นักแม่นคิวจอมเก๋าชาวเวลส์ ขยับขึ้นมือ 3 ของโลก พร้อมรับเงินรางวัล 425,000 ปอนด์ (ประมาณ 18 ล้านบาท) ไปครองสมใจ

มาดุ! “เป๊ก สระบุรี” ฟอร์มแรงตบ 8 คนรวด ศึก สนุกเกอร์ขอนแก่น

“บิ๊ก สระบุรี” อรรถสิทธิ์ มหิทธิ จอมคิวอดีตแชมป์สมัครเล่นโลกโชว์เพลงตบได้เหนือชั้นทะลุรอบ 8 คน เจอ ”แมน นครปฐม” ในศึกสอยคิว ไทยแลนด์ แรงกิ้ง สนาม 6 ที่ขอนแก่น

การแข่งขัน สนุกเกอร์ สะสมคะแนนประเทศไทย “ไทยแลนด์ แรงกิ้ง 2018” รายการที่ 6 ชิงเงินรางวัลรวม 1,009,000 บาท ที่ อวานี ขอนแก่น โฮเต็ล แอนด์ คอนเวนชั่น เซนเตอร์ จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันจันทร์ที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา

โดยคู่ที่น่าสนใจเป็นการพบกันระหว่าง บิ๊ก สระบุรี อรรถสิทธิ์ มหิทธิ จอมคิวอดีตแชมป์สมัครเล่นโลก ปี 50 และแชมป์ประเทศไทย ปี 60 พบกับ “หนึ่ง มุกดาหาร” ศราวุธ กาญจนานุรักษ์ นักสนุ้ก 2 สัญชาติ เจ้าของเหรียญทองประวัติศาสตร์ ซีเกมส์ ให้ สปป.ลาว

เริ่มเฟรมแรกทั้งคู่ตบไปคนละไม้ หนึ่ง นำ 13-8 บิ๊ก มาโดนวางสนุ้กแก้ไม่ดี ส่งให้ หนึ่ง มุกดาหาร ตบแดงหลุมกลางเดินหน้าเข้าเบรกไม้เดียวหมดโต๊ะทำเซนจูรี่เบรก 105 แต้ม ชนะ 118-8 ขึ้นนำ 1-0 เฟรม

เฟรมสอง เกมแทงกันช่วงแรกอยู่หลายไม้ ซึ่ง บิ๊ก มีโอกาสตบนำ 15-4 ก่อนที่ หนึ่ง จะตบไล่มาเสมอ 15-15 จากนั้นทั้งคู่ผลัดกันตบอีกคนละไม้ จอมคิวจากมุกดาหารทำได้ดีกว่า นำ 49-22 แต่อดีตแชมป์สมัครเล่นโลก มาตบแดง 3 ชุด แล้ววางสนุ้ก จนได้มาตบหมดโต๊ะปล้นชัย 79-49 ไล่มาเสมอ 1-1 เฟรม

เฟรมสาม บิ๊ก แทงได้ไหลลื่นขึ้น ตบเบรก 75 แต้ม ชนะขาด 102-0 ขึ้นนำบ้าง 2-1 เฟรม ทำเอาอีกฝ่ายต้องเจองานหนัก

เฟรมสี่ บิ๊ก ตบแดงหลุมยาวต่อด้วยเขียวนำ 4-0 จอมคิวจากสระบุรี แทงบีบเกมได้ดีจนได้ตบไม้ที่สอง ไล่ทิ่มนำ 35-0 หนึ่ง มุกดาหาร ตบแดงหลุมยาวลงไปต่อด้วยน้ำตาล แต่มาพลาดแดงง่ายๆ คราวนี้ บิ๊ก สอยไม้เดียวชนะขาด 67-5 ขึ้นแท่นนำ 3-1 เฟรม

พอถึงเฟรมห้า เปิดมา บิ๊ก ตบนำก่อน 14-0 แต่จากนั้นทั้งคู่ผลัดกันตบคนละไม้ หนึ่ง มุกดาหาร พลิกนำ 39-37 แถมได้ตบแดง 3 ชุดครึ่ง นำห่าง 58-37 และวางสนุ้กเหลืองได้ 1 ครั้ง ก่อนที่ บิ๊ก จะแก้โดนเหลืองฟลุกลงหลุมซ้าย ทำให้ตบเขียวแล้วกวาดหมดโต๊ะแซงชนะ 64-62 จบเกม อรรถสิทธิ์ เอาชนะไป 4-1 เฟรม 8-118, 79-49, 102-0, 67-5, 64-62 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 คนสุดท้าย ไปพบกับ “แมน นครปฐม”

หากท่านใดที่ต้องการติดตาม ข่าวกีฬา โปรแกรมการแข่งขันสนุกเกอร์ ผลการแข่งขันสนุกเกอร์ หรือข่าวสารวงการกีฬาอื่นๆ เพิ่มเติม เพียงแค่ กดไลค์ กดแชร์ ติดตามเว็บไซต์

”เต่า มาสเตอร์”แทงแม่นทะยานรอบสองศึกพูล 9 ลูกชิงแชมป์ปทท.

”เต่า มาสเตอร์” สมพล แซ่ตั้ง จอมคิวพูลทีมชาติไทย แทงได้แม่นยำและชำนาญเกมสมราคาทีมชาติ ไล่ทิ่มคู่แข่ง 3 เกมซ้อน ส่งให้ทะยานสู่รอบสอง ในศึกพูล 9 ลูก ชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2563 ในการแข่งวันแรก ที่ห้างสรรพสินค้า โชว์ ดีซี
การแข่งขันพูล 9 ลูก ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2563 ที่ห้างสรรพสินค้า โชว์ ดีซี (Show DC) เมื่อวันที่ 17 ก.พ. ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันวันแรก โดยมี นายพัสสพงศ์ พิทักษ์พูนสิน เลขาธิการสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย มาเป็นประธานเปิดการแข่งขัน ซึ่งการแข่งขันในรอบแรก แข่งแบบแบ่งสาย คัดเอาอันดับ 1 และ 2 ของแต่ละสาย โดยแข่งระบบใครถึง 7 แร็กก่อนเป็นผู้ชนะ ซึ่งคู่ที่น่าสนใจในสาย เอ ระหว่าง ”เต่า มาสเตอร์” สมพล แซ่ตั้ง นักกีฬาพูลทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ที่ฟิลิปปินส์ พบกับ สุภัทร วัฒนาวรรณะ ซึ่งเกมนี้สมพลอาศัยความแม่นและชำนาญเกม ไล่กดชนะไป 7-4 แร็ก แถมในเกมที่สอง เต่าดวลกับ พีรพงศ์ พู่จิตรกานนท์ ซึ่งเกมนี้ เต่า มาสเตอร์ จอมคิวทีมชาติไทยเหนือกว่ามาก เอาชนะไปได้อีก 7-2 แร็ก และในเกมสุดท้าย เต่ายังไล่สอย ศุภศุทธ พานินชอบ ขาดลอย 7-0 แร็ก ทำผลงานรวมแข่ง 3 เกม ชนะรวดทั้ง 3 เกม เป็นที่ 1 สาย เอ

   ขณะที่ในสาย บี ชวัลวิทย์ การนาดี ลงแข่งขันเกมแรก เอาชนะ ธารินทร์ อุรุเอกโอฬาร 7-3 แร็ก แถมในเกมที่สองพิชิต คม เกิดทรัพย์ 7-0 แร็ก ทำให้ชนะ 2 เกมติด เหลือการแข่งขันอีก 1 เกม แต่การันตีการเข้ารอบสองได้แล้ว ด้านสาย เจ พิสิษฐ์ ชัยคูตระกูล แข่ง 2 เกม ชนะรวดเช่นกัน โดยเกมแรกชนะ จักรศิลป์ ธนทันวงษ์ 7-5 แร็ก และเกมสองชนะ เมษ สันติธรรมรักษ์ 7-0 แร็ก 

  ส่วนผลการแข่งขันคู่อื่นๆ มีดังนี้ พีรพงศ์ พู่จิตรกานนท์ ชนะ ศุภศุทธ พานิชชอบ 7-4 แร็ก, เอกพงษ์ หยองอนุกูล ชนะ กฤษพน วุฒิกาญจนธร 7-1 แร็ก, วีรยุทธ ศรีบุญช่วย ชนะ เพิ่มทรัพย์ รามเมฆ 7-6 แร็ก, พิสิษฐ์ ชัยคูตระกูล ชนะ จักรศิลป์ ธนทันวงษ์ 7-5 แร็ก, วุฒิพงษ์ ซิมซอย ชนะ ธารินทร์ อุรุเอกโอฬาร 7-5 แร็ก, สุภัทร วัฒนาวรรณะ ชนะ ศุภศุทธ พานิชชอบ 7-2 แร็ก, เอกพงษ์ หยองอนุกูล ชนะ วีรยุทธ ศรีบุญช่วย 7-5 แร็ก 

ทำไมนักสนุกเกอร์ต้องใส่เสื้อกั๊กและเสื้อเชิ้ตแขนยาว?

“เครื่องแบบ”… หลายคนอาจโอเคกับการใส่ หลายคนอาจจะไม่ปลื้ม แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าในบางสังคม เครื่องแบบถือเป็นสิ่งที่ถูกบัญญัติในกฎระเบียบ ส่วนจะเพื่อให้ง่ายต่อการสังเกต หรือเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย อันนี้ก็สุดแท้แต่เหตุผลของแต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

วงการกีฬาเองก็เช่นกัน เพราะไม่ว่าจะในการแข่งขันกีฬาใดก็ตาม ก็มักจะมีกฎระเบียบที่ระบุถึงเครื่องแบบที่พวกเขาต้องสวมใส่ลงทำการแข่งขันเสมอ รวมถึงกีฬาอย่าง สนุกเกอร์ ก็ด้วยเช่นกัน

แต่หากสังเกตดูก็จะพบว่า เครื่องแบบของเหล่านักสนุกเกอร์ที่ทำการแข่งขันในแมตช์ต่างๆ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน นั่นคือ พวกเขาจะต้องใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาว กางกางสแล็ค รองเท้าหนัง มิเพียงเท่านั้น ยังต้องใส่เสื้อกั๊ก รวมถึงผูกหูกระต่ายด้วย

ด้วยอาภรณ์สุดเนี้ยบ หลายครั้งหลายหนนักสนุกเกอร์ก็มักจะถูกแซวแบบที่คนแซวกับคนได้ยินขำ ส่วนเจ้าตัวไม่รู้อย่างไรว่า แต่งตัวเหมือนบ๋อยบ้าง เด็กรับรถบ้าง แต่เหตุใดพวกเขาถึงต้องแต่งตัวแบบจัดเต็มถึงเพียงนี้ด้วยล่ะ?

เหตุเริ่มจากจุดกำเนิด

ภาพจำของแฟนกีฬาเมื่อนึกถึงกีฬาสนุกเกอร์ในเรื่องของการแต่งกายนั้น ก็เป็นอย่างที่เราได้กล่าวไปข้างต้น เสื้อเชิ้ต เสื้อกั๊ก หูกระต่าย ฯลฯ ทุกอย่างคือสิ่งที่เราเห็นมาตั้งแต่ยังจำความได้

ซึ่งหากจะหาจุดเริ่มต้นว่าเหตุใด นักกีฬาสนุกเกอร์ถึงต้องแต่งกายให้เนี้ยบถึงเพียงนี้ ก็คงต้องย้อนกลับไปถึงจุดกำเนิดของมันเลยทีเดียว

ก่อนอื่นเลยก็คือ สนุกเกอร์นั้นเป็นกีฬาที่ถูกพัฒนาดัดแปลงมาจากกีฬาบิลเลียดในปี 1875 ตามแนวคิดของ เซอร์ เนวิลล์ ฟรานซิส ฟิซเจอร์รัลด์ แชมเบอร์เลน นายทหารกองทัพอังกฤษที่ประจำการอยู่ในเมืองจาบาลเปอร์ ของอินเดีย (สมัยยังเป็นเขตอาณานิคม) ผู้มองว่า กติกาของบิลเลียดซึ่งพวกเขาเล่นอยู่แต่เดิมนั้นดูจะธรรมดาไป เพราะมีแค่การแทงลูกแดงกับดำเพียง 2 ลูกเท่านั้น จึงได้เพิ่มลูกสีอื่นๆ เข้าไปในเกม และปรับการคิดคะแนนให้มีความหลากหลาย ซึ่งคำว่า “สนุกเกอร์” ก็ได้รับการบัญญัติโดยเซอร์แชมเบอร์เลนนั่นเอง

และอย่างที่กล่าวไปว่า กีฬาสนุกเกอร์นั้นพัฒนามาจากบิลเลียด ทำให้ค่านิยมแทบทุกอย่างจึงได้รับการสืบทอดกันมาด้วย ไม่เว้นแม้แต่เครื่องแต่งกาย เพราะกีฬาบิลเลียดที่เริ่มมีการเล่นกันมาตั้งแต่ราวคริสต์ศตวรรษที่ 16 นั้น เป็นที่รู้จักในฐานะ “กีฬาสุภาพบุรุษ” เนื่องจากเป็นกีฬาที่นิยมเล่นกันในหมู่เชื้อพระวงศ์และทหาร ซึ่งเครื่องแต่งกายที่สวมใส่เวลาเล่นที่โต๊ะนั้นก็คือ ชุดสุดเนี้ยบ สวมสูท ผูกไท นั่นเอง

ด้วยประเพณีที่สืบสานกันมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษนี้ จึงทำให้เครื่องแต่งกายของนักสนุกเกอร์ ยังคงรักษาความเนี้ยบและเรียบร้อยกันมาถึงทุกปัจจุบัน

เวลาเปลี่ยน อะไรเปลี่ยน?

ถามว่ากีฬาสนุกเกอร์รักษาธรรมเนียมการแต่งตัวอันเรียบร้อยและเนี้ยบขนาดไหน? เอาเป็นว่าเราทำการสืบค้นถึงกติกาการแข่งขันสนุกเกอร์ระดับอาชีพแล้วก็พอว่า เรื่องการแต่งตัวคือหนึ่งในกติกา ซึ่งได้บัญญัติตามที่เรากล่าวไว่ในตอนแรกอย่างชัดเจน พร้อมกับย้ำว่า จะต้องมีการรีดเสื้อผ้าให้เรียบ ขัดรองเท้าให้เงาอีกด้วย

แต่ถึงกระนั้น เครื่องแต่งกายของนักกีฬาสนุกเกอร์ก็ได้มีการปรับปรุงให้เข้ากับธรรมชาติของการแข่งขัน ตลอดจนยุคสมัยที่เปลี่ยนไปเช่นกัน

เพราะจากในสมัยอดีตที่ผู้เล่นจัดเต็มทั้งใส่สูทผูกไท ก็ได้มีการเปลี่ยนกฎให้ผู้เล่นใส่เสื้อกั๊กและผูกหูกระต่ายแทน เนื่องจากธรรมชาติของกีฬานี้ จะต้องมีการก้มๆ เงยๆ แทงลูกอยู่เป็นประจำ เสื้อกั๊กกับหูกระต่ายจึงเป็นตัวเลือกในการสวมใส่ชุดที่เรียบร้อย แต่ไม่รุ่มร่าม และไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งของชุดที่อาจจะไปรบกวนการเล่นจนต้องเสียคะแนนได้อีกด้วย

นอกจากนั้น กฎเรื่องการแต่งตัว หรือ Dress Code ก็เริ่มที่จะได้รับการผ่อนคลายให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป โดยสามารถใส่เสื้อกั๊กสีอื่นๆ ได้แล้ว เช่นเดียวกับสามารถติดโลโก้สปอนเซอร์ที่ด้านหน้าของเสื้อกั๊กได้อีกด้วย

และแม้จะมีการบัญญัติกฎไว้อย่างเคร่งครัด แต่หากมีเหตุสมควร นักกีฬาก็สามารถที่จะไม่ขอแต่งเต็มยศได้เช่นกัน อย่างเช่นกรณีของ สตีเฟ่น แม็คไกวร์ ซึ่งมีปัญหาบริเวณคอ ซึ่งแพทย์ได้ทำการตรวจและรับรองให้เขาไม่ต้องผูกหูกระต่ายลงแข่งได้

อย่างไรก็ตาม ฌอน เมอร์ฟี่ แชมป์โลกสนุกเกอร์ปี 2005 ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานสหภาพผู้เล่นก็ยอมรับว่า ตัวเขาเองก็พร้อมที่จะเปิดรับการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน

“ส่วนตัวผมรับได้นะหากจะเปลี่ยนมาใส่เสื้อโปโล เพราะดูอย่างกีฬากอล์ฟสิ พวกเขาก็แต่งตัวแบบดูดี แถมยังสามารถดึงแบรนด์เสื้อต่างๆ มาร่วมงานกับนักกีฬา สร้างยอดขายทำให้นักกีฬาได้รับส่วนแบ่งด้วย เพราะคุณสามารถไปซื้อเสื้อที่นักกอล์ฟใส่ตามร้านขายอุปกรณ์กีฬาได้ แต่กับเรามันไม่ใช่แบบนั้น ซึ่งมองอีกมุม มันก็เหมือนเราตัดจมูกตัวเองทำให้เสียมูลค่าทางการตลาดไปเช่นกัน”

ซึ่งถึงแม้เราจะได้เห็นบางรายการที่ปรับภาพลักษณ์ อนุญาตให้นักกีฬาใส่เสื้อโปโลลงแข่งได้ ถึงกระนั้น ประเพณีก็เป็นสิ่งที่ไม่ใช่จะเปลี่ยนกันง่ายๆ ด้วยเหตุนี้การสวมเสื้อเชิ้ต เสื้อกั๊ก ผูกหูกระต่าย จึงยังเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับการแข่งขันสนุกเกอร์ต่อไป แต่เสียงเรียกร้องแห่งการเปลี่ยนแปลงก็ลอยอยู่ท่ามกลางสายลม เหลือเพียงแค่ว่า เสียงดังกล่าวจะดังเพียงพอให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ และเมื่อไหร่เท่านั้นเอง

สองปีติด! “เอฟ นครนายก” ลิ่วสอยคิวโลก 32 คน ลุยครูซิเบิ้ลฯ

“เอฟ นครนายก” เทพไชยา อุ่นหนู นักสนุกเกอร์ขวัญใจชาวไทยรายล่าสุด สามารถสร้างประวัติศาสตร์ทะลุเข้าแข่งขันในรอบเมนดรอว์ ของศึกสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลก รายการใหญ่ที่สุดของปี ที่ครูซิเบิ้ลเธียเตอร์ เมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษได้สำเร็จเป็นปีที่สองติดต่อกัน

การแข่งขัน สนุกเกอร์ชิงแชมป์โลก 2019 ที่อิงลิช อินสติติวต์ ออฟ สปอร์ต ประเทศอังกฤษ เมื่อวันพุธที่ 17 เมษายน ที่่ผ่านมา เป็นการแข่งขันในรอบ 48 คนสุดท้าย นักแม่นคิวหนึ่งเดียวจากไทย “เอฟ นครนายก” เทพไชยา อุ่นหนู มืออันดับ 43 ของโลก ลงแข่งขันพบกับ โจ โอคอนเนอร์ นักสอยคิวชาวอังกฤษ มือ 76 ของโลก ใช้ระบบการแข่งขัน 10 ใน 19 เฟรม

โดยการแข่งขันในช่วงเซสชั่นแรก นักแม่นคิวชาวไทยเป็นฝ่ายสู้ได้ไม่เป็นรอง ก่อนขึ้นนำ 5-4 ในวันแรก ก่อนที่ในช่วงเซสชั่นที่สอง เทพไชยา อุ่นหนู ยังแทงด้วยความมั่นใจแถมทำเซ็นจูรี่เบรค 138 แต้มได้อีกด้วยในเฟรมที่ 13 ก่อนเก็บเพิ่มได้เป็น 10-6 เฟรม คว้าชัยพร้อมทะลุผ่านเข้าสู่รอบ 32 ทีม ที่ครูซิเบิ้ลเธียเตอร์ ได้สำเร็จ

ทำให้ นักแม่นคิวชาวไทยวัย 34 ปี สามารถผ่านเข้าไปเล่นที่ครูซิเบิ้ลเธียเตอร์ ได้เป็นปีที่สองติดต่อกัน พร้อมรับเงินรางวัล 30,000 ปอนด์ (ประมาณ 1.2 ล้านบาท) นอกจากนี้ยังมีลุ้นอันดับโลกพุ่งขึ้นไปติด 1 ใน 30 มืออันดับโลก

สำหรับ “เอฟ นครนายก” ถือเป็นผู้เล่นชาวไทยรายที่ 5ในประวัติศาสตร์ที่สามารถผ่านเข้ารอบสุดท้าย ไปเล่นในครูซิเบิ้ลเธียเตอร์ ได้สำเร็จ ต่อจาก “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” รัชพล ภู่โอบอ้อม, “ต่าย พิจิตร” ชูชาติ ไตรรัตนประดิษฐ์, “แจ๊ค สระบุรี” เดชาวัติ พุ่มแจ้ง และ “หมู ปากน้ำ” นพพล แสงคำ

“รอนนี่” เด็ดดวง กดซ้ายโชว์ ทำเซ็นจูรี่เบรคครบ 1,000 ครั้ง คนแรกของโลก

“รอนนี่ โอซุลลิแวน” นักสอยคิว วัย 43 ปี ชาวอังกฤษ กลายเป็นนักสนุกเกอร์คนแรกของโลก ที่ทำเซ็นจูรี่เบรคครบ 1,000 ครั้ง ได้สำเร็จ

โดยการแข่งขันสนุกเกอร์ คอรัล เพลเยอร์ส แชมเปี้ยนชิพ รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง รอนนี่ โอซุลลิแวน นักสนุ้กขวัญใจชาวโลก ลงสังเวียนพบกับ นีล โรเบิร์ตสัน นักสอยคิวจากออสเตรเลีย

การแข่งขันแมทต์นี้ได้กลายเป็นประวัติศาสตร์ของวงการสนุกเกอร์โลก เมื่อ รอนนี่ สามารถทำเซ็นจูรี่เบรคครบ 1,000 ครั้ง ได้สำเร็จ ในเกมสุดท้ายที่เขาเอาชนะ นีล โรเบิร์ตสัน ไปได้ 10-4 เฟรม ทำให้เขาขึ้นแท่นเป็นมนุษย์คนแรกที่ทำได้สำเร็จเป็นครั้งที่ 1,000 ท่ามกลางเสียงปรบมือดังกึกก้อง

นอกจากนี้ ในช็อตสำคัญในการทำแต้มเกิน 100 เขายังเปลี่ยนจากมือขวา มาใช้มือซ้ายแทงอีกด้วย ยิ่งสร้างรอยยิ้มและเสียงปรบมือดังขึ้นไปอีก

ทั้งนี้ การทำเซ็นจูรี่เบรค คือการทำ 100 หรือหนึ่งร้อยคะแนนขึ้นไป ในการแทงไม้เดียว และ รอนนี่ คือคนแรกที่ทำได้ถึง 1,000 ครั้ง ขณะที่นักสนุ้กที่ทำได้เป็นอันดับรองจากเขาคือ สตีเฟ่น เฮนดรี้ ที่ทำได้ 775 ครั้ง อันดับ 3 เป็น จอห์น ฮิกกิ้นส์ 745 ครั้ง และ นีล โรเบิร์ตสัน ทำได้ 621 ครั้ง

“รอนนี่” ที่ปัจจุบันรั้งมืออันดับ 35 ของโลกกล่าวว่า “มันเป็นช่วงเวลาพิเศษของผมมากๆ ผมไม่เคยคาดหวังอะไรในเรื่องนี้ แต่ผมคิดว่ามันไม่สิ้นสุดเพียงเท่านี้หรอก”

”ต๋อง ศิษย์ฉ่อย”เฉือนหวิวฉลุยตัดเชือกสอยคิวพี80

”ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” รัชพล ภู่โอบอ้อม จอมคิวขวัญใจชาวไทย ออกสตาร์ตร้อนแรง ไล่ทิ่มนำ ”ท็อป จันท์” พงศกร จงใจรักษ์ นักแม่นรูดาวรุ่งดีกรีรองแชมป์เยาวชนโลก ปี 61 ถึง 3-0 เฟรม แต่พอ ท็อป ตั้งหลักได้ ไล่สอยรุ่นพี่มาเสมอกัน 3-3 เฟรม ก่อนที่ ไททอร์นาโด จะมาใช้ประสบการณ์ ปาดเหงื่อเบียดชนะ 4-3 เฟรม ลิ่วรอบรองชนะเลิศ ในศึกสอยคิว พี80-ทรู กาญจนบุรี คัพ
การแข่งขันสนุกเกอร์สะสมคะแนนประเทศไทย รายการพี80-ทรู ไทยแลนด์ แรงกิ้ง ประจำปี พ.ศ. 2563 ประเดิมสนามแรกแล้ว เมื่อวันอังคารที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่โรงแรมเฟลิกซ์ ริเวอร์แคว รีสอร์ต จังหวัดกาญจนบุรี ชิงเงินรางวัลรวม 1,500,000 บาทซึ่งแม็กซิมัมเบรก 147 แต้ม แอร์อีมิเนนท์ มอบทองคำมูลค่า 5 แสนบาท และ ไฮคลาส สนุกเกอร์ โคราช มอบเงิน 1 แสนบาท นอกจากนี้นักกีฬาคนใดทำเซนจูรีเบรกเกิน 100 แต้ม จะได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท จากทรัลส์ซิตี้ โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง

โดยคู่ที่น่าสนใจเปป็นการพบกันระหว่าง ”ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” รัชพล ภู่โอบอ้อม จอมคิวขวัญใจชาวไทย อดีตมือ 3 ของโลก พบกับ ”ท็อป” จันท์ไพงศกร จงใจรักษ์ ดีกรีรองแชมป์เยาวชนโลก ปี 61 ซึ่งเริ่มมาเฟรมแรก ต๋อง เป็นฝ่ายแทงคุมเกมไว้ได้เกือบหมด ตบแค่ 4 ไม้ ชนะ 57-22 ขึ้นนำ 1-0 เฟรม เข้าเฟรมสอง ไทยทอร์นาโด ยังแรงกดไม้เดียว 11 ชุดครึ่ง 79 แต้ม ชนะขาด 83-0 นำห่างไป 2-0 แถมในเฟรมสาม ต๋อง แทงได้เหนือกว่าจอมคิวจากเมืองจันทบุรี ทิ่มชนะ 54-18 ขึ้นแท่นนำ 3-0 เฟรม

เฟรมสี่ ท็อป เปิดหน้าสู้ ทำได้ดีตบไป 5 ไม้ ชนะ 61-31 ตีไข่แตก 3-1 เฟรม พอเฟรมห้า ต้นเกม ต๋อง ตบ 2 ไม้ นำ 32-0 ก่อนที่ทั้งคู่จะผลัดกันตบคนละ 2 ไม้ ต๋อง นำ 48-37 น่าจะปิดเกมชนะสบาย แต่มาพลาดน้ำตาลฟาวล์ทำให้ ท็อป รุกขึ้นมาตบน้ำตาลถึงชมพู ปล้นชัย 56-48 ไล่มา 2-3 เฟรม ทำให้ ท็อป มีแรงฮึดยิ่งขึ้น พอเฟรมหก จอมคิวหนุ่งจากเมืองจันทบุรี เดินหน้าตบเป็นพระเอกอยู่ฝ่ายเดียว ทิ่มชนะขาด 64-6 ตามมาเสมอ 3-3 เฟรม

มาถึงเฟรมตัดสิน เกมสูสีทั้งคู่ผลัดกันตบจนเหลือแดงลูกสุดท้าย ต๋อง นำ 41-19 ทั้งคู่แทงกันอยู่คนละ 2 ไม้ ก่อนที่ ต๋อง จะตบแดงลงไป แล้วแทงกัน จนมีโอกาสได้ตบเหลืองอีกลูก นำ 44-19 สกอร์เท่าลูกสีที่เหลือบนโต๊ะ ซึ่ง ท็อป มีโอกาสตบเขียวลงไปแต่พลาดน้ำตาล ส่งให้จอมคิวรุ่นพี่มาเก็บน้ำตาลลงแต้มขาดลอย ส่งผลให้ ท็อป จันท์ ขอยอมแพ้ให้ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย เฉือนเอาชนะไป 4-3 เฟรม 57-20, 83-7, 54-18, 31-61, 48-56, 64-6, 48-22 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ

ขณะที่อีกคู่ ระหว่าง ”กร นครปฐม” ภาสกร สุวรรณวัฒน์ อดีตแชมป์เอเชีย ปี54 และเจ้าของแชมป์ 6 แดง กับ 15 แดง ประเทศไทยในปีที่แล้ว พบกับ ”จิ๋ว เชียงราย”พชร มาเยอะ นักแม่นรูจากดอยอ่างขาง อดีตเยาวชนทีมชาติ ซึ่งเกมนี้เปิดมาเฟรมแรก กร ออกอาวุธหนัก ตบไม้เดียวแดง 14 ชุด 88 แต้ม นำ 1-0 เฟรม ก่อนที่เฟรมสอง จอมคิววร่างใหญ่จากนครปฐม จะมาสอยไม้เดียว 76 แต้ม ชนะอีก 79-0 นำห่าง 2-0 เฟรม มาเฟรมสาม กร ออกแรงแทงปล้นแดง 2 ชุดสุดท้าย พร้อมเก็บเหลืองถึงดำ เบียดชนะ 59-56 ขึ้นแท่นนำ 3-0 เฟรม เข้าเฟรมสี่ กร แก้สนุ้กไม้แรก ไม่โดนถึง 2 ครั้ง ก่อนมาเดินหน้ากดไม้เดียว 82 แต้ม ปิดเกมชนะขาด 4-0 เฟรม 88-0, 79-0, 59-56, 83-8 ทะลุรอบรองชนะเลิศไปเจอกับ ”อิศ จันท์” อิศรา กะไชยวงษ์ อดีตแชมป์เอเชีย 2 สมัย ที่เอาชนะ ”กิ๊ก พิษณุโลก” สันติภาพ วงศ์มหาชัย 4-2 เฟรม 67-41, 1-65, 73-51, 65-64