“แม็กไกวร์”โทษโต๊ะทำตกรอบแรกชิงแชมป์โลกหลังเดินทางถึงบ้านเกิด

เป็นประจำที่แฟนสนุกเกอร์เห็นกันทุกปีอยู่แล้ว ที่การแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลกในรอบแรก หรือรอบ 32 คนสุดท้าย จะมีมือท็อป 16 ของโลก พลาดท่าแพ้ต่อมือที่มาจากรอบคัดเลือก จนต้องตกรอบก่อนเวลาอันควร
อย่างเช่นเมื่อปีที่แล้ว ฌอน เมอร์ฟี่ อดีตแชมป์โลกเมื่อปี 2005 ชาวอังกฤษ โดน “หมู ปากน้ำ” นพพล แสงคำ ของไทยเราต้อนอย่างขาดลอย 10-4 เฟรม หรือย้อนเวลาไปเมื่อ 2 ปีก่อน “เดอะร็อกเก็ต” รอนนี่ โอซัลลิแวน ที่เป็นมือ 1 ของโลกในเวลานั้น แถมยังเป็นเต็ง 1 ที่จะคว้าแชมป์อีกต่างหาก พลาดท่าแพ้ต่อมือโนเนมที่เพิ่งเข้ามาแทงในครูซิเบิลเป็นครั้งแรกอย่าง เจมส์ เคฮิลล์ ไปอย่างช็อกโลก 8-10 เฟรม

สำหรับศึกชิงแชมป์โลก 2021 ที่กำลังบรรเลงเพลงคิวกันอยู่ในตอนนี้ การแข่งขันในรอบแรก ใกล้จะผ่านไปเกือบครบทุกคู่แล้ว ปรากฏว่ามี 2 แมตช์ ที่มือท็อป 16 ของโลก ซึ่งได้สิทธิ์เข้ามาแข่งขันในสังเวียนครูซิเบิลโดยอัตโนมัติ เกิดพลาดท่าให้กับมือที่อยู่นอกท็อป 16 ของโลก ซึ่งมาจากรอบคัดเลือก

2 แมตช์ดังกล่าว ไล่ตั้งแต่เกมระหว่าง ติง จุ้น ฮุย มือ 9 ของโลกจากจีน ที่พ่ายต่อ สจวร์ต บิงแฮม มือ 18 ของโลกจากอังกฤษ 9-10 เฟรม จะว่าไปผลการแข่งขันของคู่นี้ ไม่ถือว่าพลิกล็อกมากมายแต่อย่างใด เพราะ ติง กับ บิงแฮม ฝีมือใกล้เคียงกันมาก แม้อันดับโลกนักสอยคิวจากแดนมังกรจะดีกว่าก็ตาม

ที่สำคัญก็คือ บิงแฮม มีประสบการณ์ลงแข่งขันในครูซิเบิลเธียร์เตอร์ค่อนข้างโชกโชน จนเคยคว้าแชมป์โลกมาแล้ว 1 ครั้งเมื่อปี 2015 จึงไม่ใช่เรื่องที่เหนือความคาดหมายมากนัก ที่เขาจะสยบ ติง จุ้น ฮุย จนผ่านเข้าสู่รอบ 16 คนสุดท้ายต่อไป

ซึ่งมันตรงกันข้ามกับอีกคู่ ในแมตช์ที่ สตีเฟ่น แม็กไกวร์ มือ 8 ของโลกจากสกอตแลนด์ พลิกล็อกพ่ายให้กับ เจมี่ โจนส์ มือ 69 ของโลกจากเวลส์ ด้วยสกอร์เละเทะ 4-10 เฟรม จนต้องตกรอบแรกอย่างเหลือเชื่อ

นับเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน และเป็นครั้งที่ 8 ในรอบ 11 ปีหลังสุดเลยทีเดียว ที่นักสอยคิวจากแดนวิสกี้รายนี้ มีอันต้องจอดป้ายในรอบแรก ในศึกสอยคิวชิงแชมป์โลก เรียกได้ว่า ผลงานไม่ถูกโฉลกกับศึกชิงแชมป์โลกอย่างแท้จริง แม้จะเคยฝ่าฟันไปจนถึงรอบรองชนะเลิศถึง 2 ครั้ง เมื่อปี 2007 และ 2012 ก็ตาม

ล่าสุด ทันทีที่เดินทางกลับถึงบ้านเกิดที่ นครกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ แม็กไกวร์ เจ้าของแชมป์ทัวร์นาเมนต์ระดับเวิลด์แรงค์กิ้ง 6 รายการ ได้กล่าวระบายความรู้สึก หลังจากพลาดท่าตกรอบแรกศึกชิงแชมป์โลก 2021 กับสื่อท้องถิ่นว่า ตนเองยอมรับว่าแทงได้ต่ำกว่ามาตรฐาน แต่สาเหตุสำคัญที่ทำให้เขาพบกับความพ่ายแพ้อย่างย่อยยับในครั้งนี้ มาจากสภาพโต๊ะแข่งขันที่ย่ำแย่

แม็กไกวร์ ที่เพิ่งมีอายุครบ 40 ปีเมื่อเดือนก่อน ยืนยันว่าเขาไม่ได้รำไม่ดีโทษปี่โทษกลองแต่อย่างใด ในช่วง 4 เฟรมแรกของเซสชั่นแรก ที่เขาขึ้นนำ 3-1 เฟรม(นำก่อน 3-0 เฟรม) ได้พูดคุยกับ เจมี่ โจนส์ ในระหว่างพักเบรก 15 นาทีว่า สภาพโต๊ะย่ำแย่มาก จนการวิ่งของลูกมันดูผิดเพี้ยนไปหมด ซึ่งแมตช์นี้เขาทำเบรกสูงสุดได้เพียง 51 แต้มเท่านั้น

การพลาดท่าตกรอบแรกหนนี้ ทำให้ แม็กไกวร์ โดนหักคะแนนสะสม 50,000 คะแนน มีผลให้อันดับโลกของเขา ร่วงจากอันดับ 8 มาอยู่อันดับ 9 ของโลกแล้ว และถ้าหากนักสอยคิวที่มีอันดับโลกตามหลังเขาอย่าง แหยน ปิ่ง เทา(มือ 10 ของโลกจากจีน), แบร์รี่ ฮอว์กินส์(มือ 11 ของโลกจากอังกฤษ), มาร์ค เจ วิลเลี่ยมส์(มือ 12 ของโลกจากเวลส์) มาร์ค อัลเลน(มือ 13 ของโลกจากไอร์แลนด์เหนือ), แจ็ค ลิซอฟสกี้(มือ 14 ของโลกจากอังกฤษ), เดวิด กิลเบิร์ต(มือ 15 ของโลกจากอังกฤษ), แอนโธนี่ แม็คกิลล์(มือ 16 ของโลกจากสกอตแลนด์) ทำผลงานได้ดี ด้วยการเข้าไปสู่รอบลึกๆของศึกชิงแชมป์โลกหนี้ อันดับโลกของ แม็กไกวร์ ก็จะร่วงยิ่งกว่านี้อีก

อย่างไรก็ตามแม้ สตีเฟ่น แม็กไกวร์ จะออกมาตีโพยตีพายโทษโต๊ะ เป็นสาเหตุที่ทำให้เขาต้องตกรอบในศึกชิงแชมป์โลกก่อนเวลาอันควร ทว่าเมื่อหันดูฟอร์มของเขาในฤดูกาลนี้แล้ว กล่าวได้ว่าผลงานไม่ดีเอาเสียเลย

นับตั้งแต่คว้าแชมป์ทัวร์แชมเปี้ยนชิพ 2020 เมื่อเดือนมิถุนายนปีก่อน แม็กไกวร์ มีฟอร์มการแทงที่ดร็อปลงไปอย่างเห็นได้ชัด ตลอดฤดูกาล 2020-2021 ที่ผ่านมา มีผลงานดีที่สุดก็คือการเข้าไปถึงรอบตัดเชือกในศึกเวลช์โอเพ่น 2021 เพียงรายการเดียวเท่านั้น ส่วนทัวร์นาเมนต์ที่เหลือมักจะตกรอบแรกๆ โดยพลาดท่าตกรอบแรกถึง 5 รายการเลยทีเดียว

ด้วยฟอร์มการแทงที่บู่ซะขนาดนี้ บางทีสภาพโต๊ะแข่งขัน อาจไม่ใช่เหตุผลที่แท้จริง ที่ทำให้เขาพลาดท่าตกรอบแรกในศึกชิงแชมป์โลกหนนี้ ที่สำคัญโต๊ะที่ แม็กไกวร์ โยนความผิดไปให้ เป็นโต๊ะเดียวกับที่แชมป์โลก 3 สมัยอย่าง “ฉลามหิน” มาร์ค เซลบี้ มือ 4 ของโลกชาวอังกฤษ เพิ่งกดเซ็นจูรี่เบรก 142 แต้มไปหมาดๆ จนกลายเป็นเบรกสูงสุดของศึกชิงแชมป์โลก 2021 (นับเฉพาะรอบเมนดรอว์) อยู่ในขณะนี้

“บิ๊กฮง”เร่งเช็กอาการ”หมู ปากน้ำ”หลังติดโควิดถอนศึกสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลก

“บิ๊กฮง”สุนทร จารุมนต์ นายกสอยคิวไทย ร้อนใจหลังเช็กอาการ หมู ปากน้ำ จอมคิวมือ 41 ของโลก จากการทราบข่าวว่าติดไวรัสโควิด-19 จนต้องถอนตัว ออกจากการแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลก โดยพอรู้ว่าอาการหายใจไม่เต็ม100% ไข้ขึ้นสูง ไอตลอดจนเจ็บคอ เพราะนอนซม รักษาตัวอยู่ที่พักอย่างเดียว จึงทำหนังสือ ถึงกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อส่งผ่านไปถึงสถานทูตไทยในอังกฤษ ดูแลช่วยเหลือจอมคิวที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติมาหลายรายการ พร้อมส่งหนังสือถึง การกีฬาแห่งประเทศไทย ให้ช่วยประสานอีกทาง “บิ๊กฮง” จะทำทุกทางเพื่อช่วยเหลือหมู ปากน้ำ

จากกรณีที่ “หมู ปากน้ำ”นายนพพล แสงคำ นักสนุกเกอร์มืออันดับที่ 41 ของโลกที่เตรียมจะลงแข่งขันรอบคัดเลือกในรายการชิงแชมป์โลกในวันที่ 19 เม.ย.64 และได้ทำการเก็บตัวซ้อมอยู่ที่เชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ จนเกิดติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และมีอาการป่วยมาตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา โดยทำได้เพียงรักษาตัวอยู่ที่บ้านพักเท่านั้น ล่าสุด ทาง”บิ๊กฮง”สุนทร จารุมนต์ นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย ได้ให้คณะกรรมการบริหารสมาคมติดต่อสอบถามถึงอาการของ หมู ซึ่งทราบว่า มีไข้ต่อเนื่อง และเจ็บปวดคออย่างแรง ลิ้นไม่รับรสชาด จมูกไม่ได้กลิ่น อ่อนเพลีย รับประทานอาหารไม่ค่อยได้ ที่สำคัญคือ มีอาการไออย่างหนัก และหายใจไม่สะดวก เนื่องจากเจ็บปอดมากที่อังกฤษไม่มีการรักษาใดๆสำหรับผู้ป่วยเลย

“สุนทร จารุมนต์ นายกสอยคิวไทย กล่าวว่า ทันทีที่ได้รับทราบอาการที่น่าเป็นห่วง ตนจึงได้รีบสั่งการให้ ทำหนังสือถึงๆกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อประสานขอความช่วยเหลือนักกีฬาไทย ที่เคยเป็นอดีตทีมชาติ สร้างผลงานในการแข่งขันมาตั้งแต่การเป็นแชมป์เยาวชนโลก รองแชมป์เยาวชนโลก, แชมป์เยาวชนเอเซีย และเป็นคนไทยคนที่ 4 ที่ได้เข้าไปแข่งขันชิงแขมป์โลกที่ครูซิเบิ้ล และผ่านเข้ารอบ 16 คนสุดท้ายได้อีกด้วย ซึ่ง นพพล ในฐานะที่เป็นนักกีฬาที่ได้รับการฝึกฝนมาตั้งแต่อยู่ในศูนย์ฝึกกีฬาบิลเลียดของสมาคมฯมาโดยตลอด ได้สร้างผลงาน ชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติมาอย่างมากมาย ผมและคณะกรรมการบริหารฯทุกคน มีความห่วงใยในสวัสดิภาพของนพพล รวมทั้งนักกีฬาไทยทุกคนที่ทำการแข่งขันอยู่ที่ประเทศอังกฤษ และได้ให้ทำหนังสือขอความช่วยเหลือไปยังสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศอังกฤษ ผ่านทางกระทรวงการต่างประเทศทันทีที่ได้รับข่าวและทราบถึงอาการอันน่าเป็นห่วงของนพพลในครั้งนี้

บิ๊กฮง”ยังกล่าวต่อว่า ทางสมาคมฯ ยินดีที่จะทำทุกวิถีทาง ที่จะใหัความช่วยเหลือนักกีฬาไทยในยามเจ็บป่วยขณะอยู่ต่างแดน และขอเป็นกำลังใจให้ นพพล หายจากอาการป่วยโควิด-19 กลับมาหายเป็นปรกติโดยเร็วที่สุด และตอนนี้ก็ยังได้ทำหนังสือถึงการกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อช่วยประสานงานให้อีกทาง เพราะในต่างประเทศจะไม่มีเหมือนประเทศไทย ซึ่งมีโรงพยาบาลของรัฐจะรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เข้ารักษาทันที และถ้าไม่เพียงพอก็ยังมีโรงพยาบาลสนาม แต่ในต่างประเทศ เนื่องจากผู้ป่วยเยอะ เขาจึงต้องปล่อยให้ผู้ป่วยนอนพักรักษาตัวเอง แต่จะส่งรถพยาบาลมารับก็ต่อเมื่ออการรุนแรงมากเท่านั้น ทำให้เรามีความห่วงใย ต่อ นักกีฬาไทย ที่ไปสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศอย่างมาก และสมาคมจะค่อยติดตามความคืบหน้าตลอดเพื่อให้ นพพล หายจากอาการป่วย