“แม็กไกวร์”โทษโต๊ะทำตกรอบแรกชิงแชมป์โลกหลังเดินทางถึงบ้านเกิด

เป็นประจำที่แฟนสนุกเกอร์เห็นกันทุกปีอยู่แล้ว ที่การแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลกในรอบแรก หรือรอบ 32 คนสุดท้าย จะมีมือท็อป 16 ของโลก พลาดท่าแพ้ต่อมือที่มาจากรอบคัดเลือก จนต้องตกรอบก่อนเวลาอันควร
อย่างเช่นเมื่อปีที่แล้ว ฌอน เมอร์ฟี่ อดีตแชมป์โลกเมื่อปี 2005 ชาวอังกฤษ โดน “หมู ปากน้ำ” นพพล แสงคำ ของไทยเราต้อนอย่างขาดลอย 10-4 เฟรม หรือย้อนเวลาไปเมื่อ 2 ปีก่อน “เดอะร็อกเก็ต” รอนนี่ โอซัลลิแวน ที่เป็นมือ 1 ของโลกในเวลานั้น แถมยังเป็นเต็ง 1 ที่จะคว้าแชมป์อีกต่างหาก พลาดท่าแพ้ต่อมือโนเนมที่เพิ่งเข้ามาแทงในครูซิเบิลเป็นครั้งแรกอย่าง เจมส์ เคฮิลล์ ไปอย่างช็อกโลก 8-10 เฟรม

สำหรับศึกชิงแชมป์โลก 2021 ที่กำลังบรรเลงเพลงคิวกันอยู่ในตอนนี้ การแข่งขันในรอบแรก ใกล้จะผ่านไปเกือบครบทุกคู่แล้ว ปรากฏว่ามี 2 แมตช์ ที่มือท็อป 16 ของโลก ซึ่งได้สิทธิ์เข้ามาแข่งขันในสังเวียนครูซิเบิลโดยอัตโนมัติ เกิดพลาดท่าให้กับมือที่อยู่นอกท็อป 16 ของโลก ซึ่งมาจากรอบคัดเลือก

2 แมตช์ดังกล่าว ไล่ตั้งแต่เกมระหว่าง ติง จุ้น ฮุย มือ 9 ของโลกจากจีน ที่พ่ายต่อ สจวร์ต บิงแฮม มือ 18 ของโลกจากอังกฤษ 9-10 เฟรม จะว่าไปผลการแข่งขันของคู่นี้ ไม่ถือว่าพลิกล็อกมากมายแต่อย่างใด เพราะ ติง กับ บิงแฮม ฝีมือใกล้เคียงกันมาก แม้อันดับโลกนักสอยคิวจากแดนมังกรจะดีกว่าก็ตาม

ที่สำคัญก็คือ บิงแฮม มีประสบการณ์ลงแข่งขันในครูซิเบิลเธียร์เตอร์ค่อนข้างโชกโชน จนเคยคว้าแชมป์โลกมาแล้ว 1 ครั้งเมื่อปี 2015 จึงไม่ใช่เรื่องที่เหนือความคาดหมายมากนัก ที่เขาจะสยบ ติง จุ้น ฮุย จนผ่านเข้าสู่รอบ 16 คนสุดท้ายต่อไป

ซึ่งมันตรงกันข้ามกับอีกคู่ ในแมตช์ที่ สตีเฟ่น แม็กไกวร์ มือ 8 ของโลกจากสกอตแลนด์ พลิกล็อกพ่ายให้กับ เจมี่ โจนส์ มือ 69 ของโลกจากเวลส์ ด้วยสกอร์เละเทะ 4-10 เฟรม จนต้องตกรอบแรกอย่างเหลือเชื่อ

นับเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน และเป็นครั้งที่ 8 ในรอบ 11 ปีหลังสุดเลยทีเดียว ที่นักสอยคิวจากแดนวิสกี้รายนี้ มีอันต้องจอดป้ายในรอบแรก ในศึกสอยคิวชิงแชมป์โลก เรียกได้ว่า ผลงานไม่ถูกโฉลกกับศึกชิงแชมป์โลกอย่างแท้จริง แม้จะเคยฝ่าฟันไปจนถึงรอบรองชนะเลิศถึง 2 ครั้ง เมื่อปี 2007 และ 2012 ก็ตาม

ล่าสุด ทันทีที่เดินทางกลับถึงบ้านเกิดที่ นครกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ แม็กไกวร์ เจ้าของแชมป์ทัวร์นาเมนต์ระดับเวิลด์แรงค์กิ้ง 6 รายการ ได้กล่าวระบายความรู้สึก หลังจากพลาดท่าตกรอบแรกศึกชิงแชมป์โลก 2021 กับสื่อท้องถิ่นว่า ตนเองยอมรับว่าแทงได้ต่ำกว่ามาตรฐาน แต่สาเหตุสำคัญที่ทำให้เขาพบกับความพ่ายแพ้อย่างย่อยยับในครั้งนี้ มาจากสภาพโต๊ะแข่งขันที่ย่ำแย่

แม็กไกวร์ ที่เพิ่งมีอายุครบ 40 ปีเมื่อเดือนก่อน ยืนยันว่าเขาไม่ได้รำไม่ดีโทษปี่โทษกลองแต่อย่างใด ในช่วง 4 เฟรมแรกของเซสชั่นแรก ที่เขาขึ้นนำ 3-1 เฟรม(นำก่อน 3-0 เฟรม) ได้พูดคุยกับ เจมี่ โจนส์ ในระหว่างพักเบรก 15 นาทีว่า สภาพโต๊ะย่ำแย่มาก จนการวิ่งของลูกมันดูผิดเพี้ยนไปหมด ซึ่งแมตช์นี้เขาทำเบรกสูงสุดได้เพียง 51 แต้มเท่านั้น

การพลาดท่าตกรอบแรกหนนี้ ทำให้ แม็กไกวร์ โดนหักคะแนนสะสม 50,000 คะแนน มีผลให้อันดับโลกของเขา ร่วงจากอันดับ 8 มาอยู่อันดับ 9 ของโลกแล้ว และถ้าหากนักสอยคิวที่มีอันดับโลกตามหลังเขาอย่าง แหยน ปิ่ง เทา(มือ 10 ของโลกจากจีน), แบร์รี่ ฮอว์กินส์(มือ 11 ของโลกจากอังกฤษ), มาร์ค เจ วิลเลี่ยมส์(มือ 12 ของโลกจากเวลส์) มาร์ค อัลเลน(มือ 13 ของโลกจากไอร์แลนด์เหนือ), แจ็ค ลิซอฟสกี้(มือ 14 ของโลกจากอังกฤษ), เดวิด กิลเบิร์ต(มือ 15 ของโลกจากอังกฤษ), แอนโธนี่ แม็คกิลล์(มือ 16 ของโลกจากสกอตแลนด์) ทำผลงานได้ดี ด้วยการเข้าไปสู่รอบลึกๆของศึกชิงแชมป์โลกหนี้ อันดับโลกของ แม็กไกวร์ ก็จะร่วงยิ่งกว่านี้อีก

อย่างไรก็ตามแม้ สตีเฟ่น แม็กไกวร์ จะออกมาตีโพยตีพายโทษโต๊ะ เป็นสาเหตุที่ทำให้เขาต้องตกรอบในศึกชิงแชมป์โลกก่อนเวลาอันควร ทว่าเมื่อหันดูฟอร์มของเขาในฤดูกาลนี้แล้ว กล่าวได้ว่าผลงานไม่ดีเอาเสียเลย

นับตั้งแต่คว้าแชมป์ทัวร์แชมเปี้ยนชิพ 2020 เมื่อเดือนมิถุนายนปีก่อน แม็กไกวร์ มีฟอร์มการแทงที่ดร็อปลงไปอย่างเห็นได้ชัด ตลอดฤดูกาล 2020-2021 ที่ผ่านมา มีผลงานดีที่สุดก็คือการเข้าไปถึงรอบตัดเชือกในศึกเวลช์โอเพ่น 2021 เพียงรายการเดียวเท่านั้น ส่วนทัวร์นาเมนต์ที่เหลือมักจะตกรอบแรกๆ โดยพลาดท่าตกรอบแรกถึง 5 รายการเลยทีเดียว

ด้วยฟอร์มการแทงที่บู่ซะขนาดนี้ บางทีสภาพโต๊ะแข่งขัน อาจไม่ใช่เหตุผลที่แท้จริง ที่ทำให้เขาพลาดท่าตกรอบแรกในศึกชิงแชมป์โลกหนนี้ ที่สำคัญโต๊ะที่ แม็กไกวร์ โยนความผิดไปให้ เป็นโต๊ะเดียวกับที่แชมป์โลก 3 สมัยอย่าง “ฉลามหิน” มาร์ค เซลบี้ มือ 4 ของโลกชาวอังกฤษ เพิ่งกดเซ็นจูรี่เบรก 142 แต้มไปหมาดๆ จนกลายเป็นเบรกสูงสุดของศึกชิงแชมป์โลก 2021 (นับเฉพาะรอบเมนดรอว์) อยู่ในขณะนี้

ตลอด29 ปีนี่คือซีซั่นแรกที่”รอนนี่”ไม่มีแชมป์

บรรดาแฟนคลับของ “เดอะร็อกเก็ต” รอนนี่ โอซัลลิแวน นักสอยคิวมือ 2 ของโลกชาวอังกฤษ ต้องผิดหวังไปตามๆกัน เมื่อนักสนุกเกอร์ซูเปอร์สตาร์ชื่อก้องโลกรายนี้ ต้องตกเพียงรอบ 16 คนสุดท้ายเท่านั้น ในศึกสอยคิวชิงแชมป์โลก 2021 ณ สังเวียนครรูซิเบิลเธียร์เตอร์ เมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา

หลังจากแพ้ “เดอะกลาสโกว์กลาดิเอเตอร์” แอนโธนี่ แม็คกิลล์ มือ 16 ของโลกจากสกอตแลนด์ไปอย่างฉิวเฉียด 12-13 เฟรม ยุติเส้นทางการป้องกันแชมป์โลกไว้เพียงในรอบนี้

อีกทั้ง ยังพลาดโอกาสสำคัญ ที่จะทำสถิติคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 7 เพื่อให้เทียบเท่ากับ “มัจจุราชผมทอง” สตีเฟ่น เฮนดรี้ ตำนานสอยคิวชาวสกอต ที่ครองสถิติคว้าแชมป์โลกมากที่สุด 7 สมัย มาตั้งแต่ปี 1999 อีกด้วย

แมตช์นี้ นับเป็นหนึ่งในแมตช์คลาสสิคเลยทีเดียว สถานการณ์พลิกไปพลิกมา โดยในเซสชั่นแรก เสมอกัน 4-4 ก่อนที่ในเซสชั่นที่ 2 แม็คกิลล์ จะระเบิดฟอร์ม จนพลิกกลับมาขึ้นนำ 10-6 เฟรม

ส่วนในเซสชั่นสุดท้าย รอนนี่ งัดฟอร์มเก่งกลับมาอย่างเหลือเชื่อ จนพลิกกลับมานำ 11-10 เฟรม แถมขึ้นแท่นนำก่อน 12-11 เฟรมอย่างเหลือเชื่อ

ทว่าในเฟรมที่ 12 แม็คกิลล์ ที่ตกอยู่ในสถานการณ์หลังพิงฝา ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ สู้แบบสุนัขจนตรอก จนกดเซ็นจูรี่เบรก 136 แต้ม ตีเสมอ 12-12 เฟรมได้อย่างเกินคาด ทั้งๆที่ในเวลานั้น โมเมนตั้มเกมตกไปอยู่กับฝั่ง “เดอะร็อกเก็ต” แล้ว จึงทำให้แมตช์นี้ ต้องสู้กันถึงฎีกาในเฟรมตัดสิน

ในเฟรมสุดท้าย รอนนี่ เป็นฝ่ายชิงจังหวะเข้าเบรกได้ก่อน และทำท่าว่าจะปิดแมตช์ กับการเข้าเบรกในไม้นี้ได้อยู่แล้ว ทว่ากลับบังคับขาวไปกินน้ำเงินเบาเกินไป ขาวไม่เลยครึ่งโต๊ะ จึงบังคับกลับมากินแดงที่อยู่ด้านบนไม่ได้ ก่อนจะแก้ไข ด้วยการสกรูเอาขาวไปสอดข้างชิ่งเพื่อกินแดงลูกเดียวที่อยู่ด้านล่าง

แต่ตำแหน่งขาวกลับไม่เป็นใจ เล่นแดงลูกดังกล่าวไม่ได้ ต้องแก้ไขด้วยการตบแดงหลุมยาว ก่อนที่เขาจะพลาด และเปิดโอกาสให้ แอนโธนี่ แม็คกิลล์ กวาดหมดโต๊ะ พลิกกลับมาชนะไปในที่สุด 13-12 เฟรม นับเป็นครั้งแรกเลยทีเดียวที่นักสอยคิวจากแดนวิสกี้ คว้าชัยเหนือ รอนนี่ หลังจากก่อนหน้านี้แพ้รวดทั้ง 6 ครั้งที่พบกัน

อย่างไรก็ตาม การตกรอบ 16 คนสุดท้ายในครั้งนี้ ทำให้ รอนนี่ ที่ปัจจุบันอยู่ในวัย 45 ย่าง 46 รับเงินรางวัลปลอบใจ 30,000 ปอนด์ หรือประมาณ 1,300,000 บาท และยังได้รับคะแนนสะสมเพิ่มอีก 30,000 คะแนนอีกด้วย

การหลุดจากวงโคจรคว้าแชมป์โลก นอกจากจะทำให้ “เดอะร็อกเก็ต” ชวดโอกาสคั่วแชมป์โลกสมัยที่ 7 แล้ว ยังถือเป็นฤดูกาลแรกในรอบ 29 ปี ที่เขาจบฤดูกาลด้วยการไม่มีแชมป์ติดมืออีกด้วย

นับตั้งแต่เทิร์นโปรเล่นอาชีพเมื่อปี 1992 ตั้งแต่ฤดูกาล 1992-1993 เขามีแชมป์ติดมือมาโดยตลอดทุกฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นแชมป์รายการประเภทเวิลด์แรงค์กิ้ง ที่มีผลต่อคะแนนสะสมอันดับโลก, แชมป์รายการประเภท non-ranking ที่ไม่มีผลต่อคะแนนสะสมอันดับโลก, แชมป์รายการระดับ minor ranking รวมไปถึงแชมป์รายการพิเศษที่ถูกเชิญให้ร่วมดวลคิว

เรียกได้ว่า ตลอด 28 ฤดูกาลที่ผ่านมา เขาไม่เคยจบฤดูกาลโดยปราศจากโทรฟี่แชมป์เลย พูดง่ายๆก็คือ ไม่ว่าฤดูกาลนั้นจะฟอร์มตกแค่ไหน หรือไม่ค่อยลงแข่ง อย่างน้อยก็ต้องมีฤดูกาลละ 1 แชมป์

โดยแชมป์แรกของเขานับตั้งแต่เทิร์นโปรเล่นอาชีพ เกิดขึ้นที่เมืองไทยในรายการเนสกาแฟ เอ็กส์ตร้า ชาลเลนจ์ เมื่อเดือนมกราคมปี 1993 ซึ่งตอนนั้นเขาเพิ่งอายุได้เพียง 17 ขวบหมาดๆ

ส่วนในฤดูกาล 2012-2013 ที่ รอนนี่ เกิดอาการเบื่อสนุกเกอร์จึงไม่ลงแข่งขันแม้แต่รายการเดียว ยกเว้นศึกชิงแชมป์โลก 2013 ซึ่งเป็นรายการสุดท้ายของซีซั่น ปรากฏว่าเขากลับมาคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 5 อย่างเหลือเชื่อ ทั้งๆที่ร้างสนามไปนานถึง 1 ปีเต็ม การไร้โทรฟี่แชมป์ในซีซั่นนี้ นับว่าเหลือเชื่อเป็นอย่างยิ่ง เพราะเขามีโอกาสที่จะคว้าแชมป์ถึง 5 ครั้ง หลังจากเข้าชิงถึง 5 รายการ

“บิ๊กฮง”เร่งเช็กอาการ”หมู ปากน้ำ”หลังติดโควิดถอนศึกสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลก

“บิ๊กฮง”สุนทร จารุมนต์ นายกสอยคิวไทย ร้อนใจหลังเช็กอาการ หมู ปากน้ำ จอมคิวมือ 41 ของโลก จากการทราบข่าวว่าติดไวรัสโควิด-19 จนต้องถอนตัว ออกจากการแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลก โดยพอรู้ว่าอาการหายใจไม่เต็ม100% ไข้ขึ้นสูง ไอตลอดจนเจ็บคอ เพราะนอนซม รักษาตัวอยู่ที่พักอย่างเดียว จึงทำหนังสือ ถึงกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อส่งผ่านไปถึงสถานทูตไทยในอังกฤษ ดูแลช่วยเหลือจอมคิวที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติมาหลายรายการ พร้อมส่งหนังสือถึง การกีฬาแห่งประเทศไทย ให้ช่วยประสานอีกทาง “บิ๊กฮง” จะทำทุกทางเพื่อช่วยเหลือหมู ปากน้ำ

จากกรณีที่ “หมู ปากน้ำ”นายนพพล แสงคำ นักสนุกเกอร์มืออันดับที่ 41 ของโลกที่เตรียมจะลงแข่งขันรอบคัดเลือกในรายการชิงแชมป์โลกในวันที่ 19 เม.ย.64 และได้ทำการเก็บตัวซ้อมอยู่ที่เชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ จนเกิดติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และมีอาการป่วยมาตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา โดยทำได้เพียงรักษาตัวอยู่ที่บ้านพักเท่านั้น ล่าสุด ทาง”บิ๊กฮง”สุนทร จารุมนต์ นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย ได้ให้คณะกรรมการบริหารสมาคมติดต่อสอบถามถึงอาการของ หมู ซึ่งทราบว่า มีไข้ต่อเนื่อง และเจ็บปวดคออย่างแรง ลิ้นไม่รับรสชาด จมูกไม่ได้กลิ่น อ่อนเพลีย รับประทานอาหารไม่ค่อยได้ ที่สำคัญคือ มีอาการไออย่างหนัก และหายใจไม่สะดวก เนื่องจากเจ็บปอดมากที่อังกฤษไม่มีการรักษาใดๆสำหรับผู้ป่วยเลย

“สุนทร จารุมนต์ นายกสอยคิวไทย กล่าวว่า ทันทีที่ได้รับทราบอาการที่น่าเป็นห่วง ตนจึงได้รีบสั่งการให้ ทำหนังสือถึงๆกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อประสานขอความช่วยเหลือนักกีฬาไทย ที่เคยเป็นอดีตทีมชาติ สร้างผลงานในการแข่งขันมาตั้งแต่การเป็นแชมป์เยาวชนโลก รองแชมป์เยาวชนโลก, แชมป์เยาวชนเอเซีย และเป็นคนไทยคนที่ 4 ที่ได้เข้าไปแข่งขันชิงแขมป์โลกที่ครูซิเบิ้ล และผ่านเข้ารอบ 16 คนสุดท้ายได้อีกด้วย ซึ่ง นพพล ในฐานะที่เป็นนักกีฬาที่ได้รับการฝึกฝนมาตั้งแต่อยู่ในศูนย์ฝึกกีฬาบิลเลียดของสมาคมฯมาโดยตลอด ได้สร้างผลงาน ชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติมาอย่างมากมาย ผมและคณะกรรมการบริหารฯทุกคน มีความห่วงใยในสวัสดิภาพของนพพล รวมทั้งนักกีฬาไทยทุกคนที่ทำการแข่งขันอยู่ที่ประเทศอังกฤษ และได้ให้ทำหนังสือขอความช่วยเหลือไปยังสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศอังกฤษ ผ่านทางกระทรวงการต่างประเทศทันทีที่ได้รับข่าวและทราบถึงอาการอันน่าเป็นห่วงของนพพลในครั้งนี้

บิ๊กฮง”ยังกล่าวต่อว่า ทางสมาคมฯ ยินดีที่จะทำทุกวิถีทาง ที่จะใหัความช่วยเหลือนักกีฬาไทยในยามเจ็บป่วยขณะอยู่ต่างแดน และขอเป็นกำลังใจให้ นพพล หายจากอาการป่วยโควิด-19 กลับมาหายเป็นปรกติโดยเร็วที่สุด และตอนนี้ก็ยังได้ทำหนังสือถึงการกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อช่วยประสานงานให้อีกทาง เพราะในต่างประเทศจะไม่มีเหมือนประเทศไทย ซึ่งมีโรงพยาบาลของรัฐจะรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เข้ารักษาทันที และถ้าไม่เพียงพอก็ยังมีโรงพยาบาลสนาม แต่ในต่างประเทศ เนื่องจากผู้ป่วยเยอะ เขาจึงต้องปล่อยให้ผู้ป่วยนอนพักรักษาตัวเอง แต่จะส่งรถพยาบาลมารับก็ต่อเมื่ออการรุนแรงมากเท่านั้น ทำให้เรามีความห่วงใย ต่อ นักกีฬาไทย ที่ไปสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศอย่างมาก และสมาคมจะค่อยติดตามความคืบหน้าตลอดเพื่อให้ นพพล หายจากอาการป่วย

สองปีติด! “เอฟ นครนายก” ลิ่วสอยคิวโลก 32 คน ลุยครูซิเบิ้ลฯ

“เอฟ นครนายก” เทพไชยา อุ่นหนู นักสนุกเกอร์ขวัญใจชาวไทยรายล่าสุด สามารถสร้างประวัติศาสตร์ทะลุเข้าแข่งขันในรอบเมนดรอว์ ของศึกสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลก รายการใหญ่ที่สุดของปี ที่ครูซิเบิ้ลเธียเตอร์ เมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษได้สำเร็จเป็นปีที่สองติดต่อกัน

การแข่งขัน สนุกเกอร์ชิงแชมป์โลก 2019 ที่อิงลิช อินสติติวต์ ออฟ สปอร์ต ประเทศอังกฤษ เมื่อวันพุธที่ 17 เมษายน ที่่ผ่านมา เป็นการแข่งขันในรอบ 48 คนสุดท้าย นักแม่นคิวหนึ่งเดียวจากไทย “เอฟ นครนายก” เทพไชยา อุ่นหนู มืออันดับ 43 ของโลก ลงแข่งขันพบกับ โจ โอคอนเนอร์ นักสอยคิวชาวอังกฤษ มือ 76 ของโลก ใช้ระบบการแข่งขัน 10 ใน 19 เฟรม

โดยการแข่งขันในช่วงเซสชั่นแรก นักแม่นคิวชาวไทยเป็นฝ่ายสู้ได้ไม่เป็นรอง ก่อนขึ้นนำ 5-4 ในวันแรก ก่อนที่ในช่วงเซสชั่นที่สอง เทพไชยา อุ่นหนู ยังแทงด้วยความมั่นใจแถมทำเซ็นจูรี่เบรค 138 แต้มได้อีกด้วยในเฟรมที่ 13 ก่อนเก็บเพิ่มได้เป็น 10-6 เฟรม คว้าชัยพร้อมทะลุผ่านเข้าสู่รอบ 32 ทีม ที่ครูซิเบิ้ลเธียเตอร์ ได้สำเร็จ

ทำให้ นักแม่นคิวชาวไทยวัย 34 ปี สามารถผ่านเข้าไปเล่นที่ครูซิเบิ้ลเธียเตอร์ ได้เป็นปีที่สองติดต่อกัน พร้อมรับเงินรางวัล 30,000 ปอนด์ (ประมาณ 1.2 ล้านบาท) นอกจากนี้ยังมีลุ้นอันดับโลกพุ่งขึ้นไปติด 1 ใน 30 มืออันดับโลก

สำหรับ “เอฟ นครนายก” ถือเป็นผู้เล่นชาวไทยรายที่ 5ในประวัติศาสตร์ที่สามารถผ่านเข้ารอบสุดท้าย ไปเล่นในครูซิเบิ้ลเธียเตอร์ ได้สำเร็จ ต่อจาก “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” รัชพล ภู่โอบอ้อม, “ต่าย พิจิตร” ชูชาติ ไตรรัตนประดิษฐ์, “แจ๊ค สระบุรี” เดชาวัติ พุ่มแจ้ง และ “หมู ปากน้ำ” นพพล แสงคำ